แทงบอลauto ก่อนใครได้ที่ IMIBIG : แมตช์สุดท้ายศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงเต็มไปด้วยความเข้มข้นโดยมีให้ลุ้นกันตั้งแต่แชมป์พรีเมียร์ลีก, ท็อปโฟร์ และการหนีตกชั้น งานนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะใจหายใจคว่ำไปบ้างแต่ก็ยังมีความเก๋าจนได้แชมป์ลีกไปครอบครองสำเร็จ ส่วน ลิเวอร์พูล พยายามทำเต็มที่แล้วแต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาได้แชมป์ ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องบอกว่าห่วยจนกระทั่งวันสุดท้าย เพราฟอร์มก็ไม่ได้เล่นแถมยังแพ้ คริสตัล พาเลซ อีกต่างหาก ส่วน ซน ฮึง-มิน ต้องบอกว่าเป็นความภาคภูมิใจของชาวเอเชียเมื่อเป็นนักเตะคนแรกจากทวีปเอเชียที่ได้ครองรางวัลดาวซัลโวลีกร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์


แทงบอลauto ก่อนใครได้ที่ IMIBIG

 

1. สถานการณ์ลุ้นแชมป์พลิกไปพลิกมา

     ฤดูกาลนี้เป็นการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกที่มันเข้มข้นกว่าในซีซั่น 2018/2019 โดยเงื่อนไขเหมือนกันนั่นก็คือนัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ต้องชนะและลุ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดสามแต้ม ซึ่งบทสรุปในซีซั่นนั้นต้องบอกว่า “เรือใบสีฟ้า” เข้าวินแบบกินนิ่ม

สำหรับในซีซั่นนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนเดิม เพราะ แมนฯ ซิตี้ ต้องเจอแรงกดดันมหาศาลเมื่อพวกเขาถูก แอสตัน วิลล่า ที่มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีม “หงส์แดง” ทำหน้าที่กุมบังเหียน สร้างเรื่องสุดช็อกเมื่อบุกมานำเจ้าบ้าน 2-0 โดยสถานการณ์อีกที่สนามแอนฟิลด์ “เดอะ เร้ดส์” ยังเสมอกัน วูล์ฟส์ 1-1 ซึ่งหากสกอร์จบแบบนี้ต่อให้ ซิตี้ แพ้ก็ยังได้แชมป์

อย่างไรก็ตาม เป๊ป แอนด์ โค. ไม่อยากเสี่ยงและสามารถรวมพลังประจัญบานยิงคืนสามประตูรวด ทำให้พวกเขาพลิกนรกกลับมาชนะ 3-2 ในขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็ยำ “หมาป่า” 3-1 แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาปาดหน้าสร้างประวัติศาสตร์ในซีซั่นนี้ได้

จบเกมสุดท้าย แมนฯ ซิตี้ มี 93 คะแนนคว้าแชมป์ด้วยการเฉือน ลิเวอร์พูล เพียงแต้มเดียวเท่านั้น แต่ที่น่าสนใจก็คือทีมแชมป์กับรองแชมป์มีคะแนนทิ้งห่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี อันดับ 3 ถึง 19 กับ 18 แต้มตามลำดับ

 

2. อาร์เซน่อลต้องโทษตัวเอง

     อีก 1 สโมสรที่ต้องบอกว่าสุดผิดหวังจริงๆ นั่นคงหนีไม่พ้น อาร์เซน่อล เพราะพวกเขามีโอกาสอยู่ในมือกับการคว้าอันดับท็อปโฟร์ เพราะแต้มมากกว่า และยังแข่งน้อยกว่า สเปอร์ส ในช่วงต้นเดือนนี้ แต่กลับทำพลาดส่งผลให้ต้องมาลุ้นนัดสุดท้าย

จุดเปลี่ยนสำคัญคงหนีไม่พ้นเกม “นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์” เยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดยก่อนหน้านั้น “ไอ้ปืนใหญ่” ฟอร์มสุดมากๆ เก็บชัยชนะในลีก 4 เกมติดต่อกัน แต่พวกเขาดันพลาดท่าพ่ายยับให้กับ “ไก่เดือยทอง” แต่สถานการณ์ยังคงดีอยู่นิดหน่อยตรงที่มีแต้มเหนือกว่า 1 คะแนน

อย่างไรก็ตามการไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และต้องกลับบ้านด้วยความพ่ายแพ้ ในขณะที่ สเปอร์ส ชนะ เบิร์นลี่ย์ ทำให้สถานการณ์พลิกมาอยู่ในมือพวกเขาทันที และเกมสุดท้ายในการพบกับ นอริช ที่ตกชั้นไปแล้วถือว่าเป็นงานง่ายดายจริงๆ

 

3. แมนยู พกดวงมาด้วยเหรอ

     แฟนบอล “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงเจ็บปวดเหลือเกินกับผลงานของทีมรักในเกมสุดท้าย โดยพวกเขาต้องพยายามคว้าชัยชนะเพื่อรักษาอันดับ 6 จะได้โควตาไปลุยเกมยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลหน้า

พลพรรค “เร้ด เดวิลส์” มุ่งมั่นหมายจะโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุดในแมตช์อำลาซีซั่น พร้อมทั้งต้องการแสดงผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่เข้ามาชมแมตช์นี้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว

บทสรุปก็คือนักเตะแมนฯ ยูฯ เล่นได้ย่ำแย่ยกทีมเหมือนเดิม ทำให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้ในเกมสุดท้าย ซึ่งงานนี้ตากล้องก็ช่างรู้งานจับภาพไปที่ใบหน้าของ เทน ฮาก ที่แสดงให้เห็นว่าเขามีงานใหญ่แบบเข็นครกขึ้นภูเขาในการสร้าง “ผีแดง” ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

 

4. “อาซน” สร้างประวัติศาสตร์ให้ชาวเอเชีย

     การลุ้นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ต้องบอกเลยว่าเข้มข้นถึงใจในช่วงโค้งสุดท้ายจริงๆ เพราะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซน ฮึง-มิน มีสิทธิ์ที่จะได้รางวัลรองเท้าทองคำไปครอบครองด้วยกันทั้งสองคน

ในตอนแรก “บังโม” แทบจะลอยลำซิว “โกลเด้น บูท” ไปเชยชมเพราะยิงประตูนำห่างคู่แข่งไปเยอะมาก แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซาลาห์ เกิดอาการฟอร์มฝืด สวนทางกับ “อาซน” ที่ยิงเป็นเข้า และไล่บี้อันดับดาวซัลโวมาติดๆ

กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ สร้างผลงานสอยตาข่ายในลีกอังกฤษได้ 21 ประตูก่อนเกมปิดซีซั่นบุกไปเยือน นอริช ทีมที่ตกชั้นไปแล้วโดยเขามีสถิติเป็นรอง โม ซาลาห์ สตาร์ทีม ลิเวอร์พูล หนึ่งประตู

 

5. ลุ้นตกชั้นมันไม่แพ้ลุ้นแชมป์

     เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า นอริช ซิตี้ กับ วัตฟอร์ด โบกมือลาพรีเมียร์ลีกล่วงหน้าไปแล้ว ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ดวงเฮงสุดๆ พลิกนรกชนะ คริสตัน พาเลซ ทันๆ ที่โดนนำไปก่อนสองลูก ทำให้พวกเขารอดตกชั้นไปเรียบร้อย ฉะนั้นเกมสุดท้ายเหลือแค่โควตาที่ต้องแย่งกันระหว่าง เบิร์นลี่ย์ กับ ลีดส์ ยูไนเต็ ซึ่งทั้งสองทีมไม่อยากได้เลย

งานนี้ “ยูงทอง” ทำผลงานได้ดีตามเป้าเมื่อพวกเขาสามารถเฉือน เบรนท์ฟอร์ด 2-1 ในขณะที่ เบิร์นลี่ย์ โดนทีเด็ดของ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทำให้ “เดอะ คลาเร็ตส์” ได้รับตั๋วใบสุดท้ายกลับสู่เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ไปแบบไม่เต็มใจซักเท่าไหร่

 

 

สมัครสมาชิกเดิมพันออนไลน์กับเราที่นี่ >> คลิ๊ก

ฝากกดติดตาม Line Official Account >> @IMIBIG << ของทางเราได้ที่นี่