แทงบอลauto ก่อนใครได้ที่ IMIBIG : เป็นที่ทราบกันแล้วว่า คู่ชิงฯ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2021/22 ที่จะฟาดแข้งกันที่สนาม สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม เป็นการดวลกันระหว่าง ลิเวอร์พูล แชมป์ 6 สมัย กับ เรอัล มาดริด แชมป์ 13 สมัย ซึ่งแน่นอนว่า นี่คือสองสโมสรที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในเวทียุโรป และที่ผ่านมาเคยดวลกันในถ้วย “บิ๊กเอียร์” มาแล้ว 8 หน โดยที่สองในนั้นเป็นการเจอกันในรอบชิงชนะเลิศด้วย ว่าแล้วเรามาย้อนรอยการเจอกันของทั้งสอง เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องกันสักหน่อยดีกว่า



แทงบอลauto ก่อนใครได้ที่ IMIBIG

 

– ลิเวอร์พูล 1-0 เรอัล มาดริด (รอบชิงฯ, 27 พ.ค. 1981)

  อลัน เคนเนดี้ ฟูลแบ็กเลือดผู้ดี ลุยเข้าไปยิงประตูชัยในนาทีที่ 81 ช่วยให้ “หงส์แดง” ผงาดคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่สาม (สมัยนั้นใช้ชื่อ ยูโรเปี้ยน คัพ) ขณะเดียวกัน บ็อบ เพสลี่ย์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ก็กลายเป็นโค้ชคนแรกที่ได้แชมป์สามสมัยกับสโมสรเดียว โดยเกมดังกล่าวฟาดแข้งกันที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เช่นเดียวกันฤดูกาลนี้ เพียงแต่ครั้งนั้นเตะที่สนาม ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์

 

– เรอัล มาดริด 0-1 ลิเวอร์พูล (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก, 25 ก.พ. 2009)

  ยอสซี่ เบนายูน โหม่งบอลผ่านมือ อีเกร์ กาซียาส ในนาทีที่ 82 ช่วย ลิเวอร์พูล บุกไปโค่น เรอัล มาดริด ถึงสังเวียนแข้ง ซานติอาโก เบร์นาเบว ถือความได้เปรียบก่อนกลับมาเตะเลกสองที่ แอนฟิลด์

 

– ลิเวอร์พูล 4-0 เรอัล มาดริด (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง, 10 มี.ค. 2009)

“หงส์แดง” กลับมาย้ำแค้นที่ แอนฟิลด์ โดย เฟร์นานโด ตอร์เรส ยิงขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 16 จากนั้นกัปตัน “เจิด” สตีเว่น เจอร์ราร์ด ทำสองตุงในนาทีที่ 28 และ 47 ก่อนที่ อันเดรีย ดอสเซน่า แบ็กซ้ายชาวอิตาเลียน กดประตูปิดท้ายนาทีที่ 88 ซึ่งหลังจบเกม ฆวนเด้ รามอส กุนซือ เรอัล มาดริด ณ เวลานั้น ยอมรับว่า ลิเวอร์พูล ดีเกินกว่าที่ทีมตนจะต้านทานได้

 

– ลิเวอร์ พูล 0-3 เรอัล มาดริด (รอบแบ่งกลุ่ม : 22 ต.ค. 2014)

นี่คือชัยชนะเหนือ “หงส์แดง” ครั้งแรกของ เรอัล มาดริด ในถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรป โดยเกมดังกล่าวที่ แอนฟิลด์ ทีมเยือนได้ทั้งสามประตูตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นาทีที่ 23 ก่อนที่ คาริม เบนเซม่า เหมาอีกสองตุงในนาทีที่ 30 และ 41 ซึ่งเกมนั้น ลิเวอร์พูล คงเละกว่านี้ ถ้าไม่ได้ความหนึบของ ซิมง มิโญเล่ต์

 

– เรอัล มาดริด 1-0 ลิเวอร์พูล (รอบแบ่งกลุ่ม : 4 พ.ย. 2014)

  เกมที่ ซานติอาโก เบร์นาเบว นัดนี้ เจ้าถิ่นได้ประตูชัยตั้งแต่นาทีที่ 27 จากการยิงระยะเผาขนของ คาริม เบนเซม่า ซึ่งบทสรุปรอบแบ่งกลุ่มครั้งนี้ เรอัล มาดริด จบที่อันดับหนึ่ง ส่วน ลิวอร์พูล ได้แค่ที่สาม ตกรอบ แต่ได้ไปลุยต่อในถ้วย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

 

– เรอัล มา ดริด 3-1 ลิเวอร์พูล (รอบก่อนรองฯ นัดแรก, 6 เม.ย. 2021)

  เกมที่ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ สเตเดี้ยม นัดนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ กับ มาร์โก อาเซนซิโอ จัดคนละตุงช่วย เรอัล มาดริด นำ 2-0 ก่อนจบครึ่งแรก ทว่าเริ่มครึ่งหลังได้แค่ 6 นาที ลิเวอร์พูล ตีไข่แตกได้จากการยิงของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อย่างไรก็ตาม แชมป์ยุโรป 13 สมัย มาได้ประตูย้ำชัย 3-1 ในนาทีที่ 65 จาก วินิซิอุส จูเนียร์ ซึ่งถือเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้

 

– ลิเวอร์พูล 0-0 เรอัล มาดริด (รอบก่อนรองฯ นัดสอง, 14 เม.ย. 2021)

  เกม เลกสองที่ แอนฟิลด์ จบลงแบบไร้สกอร์ โดยที่ เรอัล มาดริด เล่นเกมรับได้สุดแข็งแกร่ง ก่อนตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก แต่ก็โดน เชลซี ทีมแชมป์ เขี่ยร่วง โดยพ่าย “สิงห์บลูส์” ด้วยสกอร์รวมสองนัด 1-3

 

สมัครสมาชิกเดิมพันออนไลน์กับเราที่นี่ >> คลิ๊ก

ฝากกดติดตาม Line Official Account >> @IMIBIG << ของทางเราได้ที่นี่